บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่าบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในปี 2533 และในปี 2545 บริษัทได้เริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่า (Ready-Built Factory) และอาคารคลังสินค้าให้เช่า (Ready-Built Warehouse) ภายหลังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นในปี 2562 บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อองค์กรและชื่อย่อสัญลักษณ์การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็น บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” พร้อมเริ่มต้นดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” ภายใต้ทิศทางเชิงกลยุทธ์ของกลุ่ม บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ ส่งผลให้บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก้าวไปสู่ผู้นำการพัฒนาแพลทฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการครอบคลุมกลุ่มสินทรัพย์ที่หลากหลาย ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชยกรรม และอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมที่มีคุณภาพสูง
-
2533
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่า (Ready-Built Factory) และอาคารคลังสินค้าให้เช่า (Ready-Built Warehouse)
-
2545
TICON เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
-
2548
จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มโรงงาน
-
2552
จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ (TLOGIS) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มคลังสินค้า
-
2556
จัดตั้งกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH)
-
2559
บริษัททำการเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดโดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 735 ล้านหุ้น ให้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด (FPHT) ซึ่งหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าว FPHT ก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโดยซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน
-
2560
บริษัทดำเนินการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กอง ได้แก่ TFUND TLOGIS และ TGROWTH เข้าสู่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TREIT ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT ถือเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
-
2561
เมษายน 2561
บริษัทผนึกพันธมิตรระดับโลก ST Telemedia Global Data Centres (STT GDC) พัฒนาธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลแห่งแรกในประเทศไทยด้วยมาตรฐานระดับสากล บนใจกลางทำเลธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ
พฤษภาคม 2561
บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ จำกัด ได้เข้าลงทุนในบริษัท สัดส่วนร้อยละ 26.1 พร้อมดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ (Tender Offer) ส่งผลให้บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทรวมร้อยละ 67.1 ต่อมาบริษัท เฟรเซอรส์ แอสเซ็ทส์ จำกัด ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้กลุ่มเฟรเซอร์สมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมร้อยละ 89.5
สิงหาคม 2561
บริษัทต่อยอดธุรกิจสมาร์ทโซลูชั่นด้วยการลงทุนแนวใหม่ร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ “จัสท์โค” (JustCo) ผู้ให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายบริการโคเวิร์คกิ้งในประเทศไทยบนพื้นที่ไพร์มโลเคชั่นใจกลางเมือง เพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ และองค์กรธุรกิจ ด้วยการนำเสนอประสบการณ์การทำงานและการใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในวงกว้าง
ตุลาคม 2561
บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ระหว่างบริษัทฯ กับบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด ได้เข้าร่วมและเป็นผู้ชนะการประมูลขายทอดตลาดที่ดินซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนน บางนา-ตราด กม.32 อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น กว่า 4,315 ไร่ เพื่อเตรียมพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยครบวงจร
-
2562
มกราคม 2562
• บริษัทผนึกพันธมิตร “สหไทยเทอร์มินอล” ผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพื่อลงทุนพัฒนา โครงการโลจิสติกส์พาร์คและศูนย์กระจายสินค้าแบบทันสมัย ในพื้นที่เชิงกลยุทธ์แห่งใหม่ บริเวณขอบเมืองกรุงเทพมหานครย่านปู่เจ้าสมิงพราย
• บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” พร้อมทเปลี่ยนชื่อย่อสัญลักษณ์การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จาก TICON เป็น "FPT"
กุมภาพันธ์ 2562
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าลงทุนใน บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GOLD) โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ ทั้งนี้ มีผู้ถือหุ้นแสดงเจตนาขายและบริษัทได้รับซื้อหุ้นไว้ รวมทั้งสิ้น 2,195,898,701 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 94.50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 18,665 ล้านบาท เมื่อรวมมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดของ GOLD เข้ากับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดของ FPT จะทำให้บริษัทฯ มีมูลค่าสินทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นมากกว่า 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ FPT ก้าวขึ้นสู่หนึ่งในผู้นำบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เมษายน 2562
• เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ลงนามร่วมทุนกับ “พีบีเอ กรุ๊ป” (PBA Group) ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการและโซลูชั่นระบบปฏิบัติการอัตโนมัติครบวงจรสำหรับโรงงานและคลังสินค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย
• เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ลงนามร่วมทุนเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) กับ “มิตซุย ฟูโดะซัน” ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น การร่วมทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมพัฒนาโครงการ สมาร์ท อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ พาร์คในทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูง
-
2563
มิถุนายน 2563
คณะกรรมการบริษัท มีมติแต่งตั้ง นายธนพล ศิริธนชัย ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) พร้อมแต่งตั้งคณะผู้บริหารชุดใหม่ เพื่อยกระดับ Frasers Property Thailand สู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ทำให้บริษัทฯ สามารถกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการบริหารสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่มีลูกค้าหลายกลุ่ม (Diversification) พร้อมเสริมสร้างการเติบโตควบคู่กับการเพิ่มรายได้ประจำ ท่ามกลางสถานการณ์การประกอบธุรกิจที่ท้าทาย (Resilience)
สิงหาคม 2563
บริษัทได้ดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ GOLD ออกจากสถานะการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุมัติการเพิกถอนดังกล่าวและให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2563 โดยหุ้นสามัญของ GOLD ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 10 สิงหาคม 2563
-
2564
พฤศจิกายน 2563
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูนิเวนเจอร์ รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด (“UVRM”) ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ (REIT Manager) ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ UVRM จากบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่ารายการรวมท้ังสิ้น 32,000,000 บาท การลงทุนในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
มีนาคม 2564
บริษัทฯ ประกาศการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 8 แห่ง เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามและการขยายธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัทในต่างประเทศ โดยมีบริษัท Frasers Property Thailand (Vietnam) Pte. Ltd. เป็นศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทในประเทศเวียดนาม ร่วมกับบริษัทอื่น ๆ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับแผนการลงทุนของกลุ่ม ประกอบไปด้วย บริษัท New Motion Pte. Ltd. บริษัท Alps Ventura Pte. Ltd. บริษัท Grand Trail Holdings Pte. Ltd. บริษัท Amigos An Phu Holding Pte. Ltd. บริษัท Amigos An Phu (Singapore) Pte. Ltd. บริษัท Grand Trail Investment Pte. Ltd. และบริษัท New Motion Industrial Co., Ltd. ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทย่อยดังกล่าวได้เข้าทำธุรกรรมซื้อที่ดินในเมืองบินห์เดือง (Binh Duong) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ สำหรับการดำเนินธุรกิจด้านนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศเวียดนาม มูลค่าธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 47.6 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 1,435.2 ล้านบาท (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 3 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ธุรกรรมเสร็จสิ้น)
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท โกลเด้น แลนด์ (เมย์แฟร์) จำกัด (“GOLD MF”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ยื่นข้อเสนอซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่เหลืออยู่ในโครงการเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอยหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ภายใต้สัญญาเช่าที่ดินและอาคารระหว่าง GOLDMF กับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (“GOLDPF”) ซึ่งมีสิทธิการเช่าโครงการดังกล่าวเหลืออยู่ทั้งสิ้นประมาณ 46 ปี รวมถึงทรัพย์สินเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ของโครงการ และสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่กองทุน GOLDPF มีอยู่ในโครงการ ด้วยราคาเสนอซื้อเท่ากับ 1,743 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความสามารถในการก่อให้เกิดรายได้ของโครงการในอนาคต โดยการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกองทุน GOLDPF ซึ่งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการได้รับความยินยอม การผ่อนผัน หรือการอนุญาตจากบุคคลภายนอกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ต่อไป
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับโอนหุ้นสามัญในบริษัท วังน้อย โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทเมื่อรวมกับบริษัทย่อยดังกล่าวใน บริษัท วังน้อย โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนร้อยละ 51 เป็นร้อยละ 100
เมษายน 2564
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 5,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญทั้งหมดใน บริษัท สีลม คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมถึงรับโอนสิทธิในการได้รับเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดย บริษัท สีลม คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 457,344,170 บาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการเข้าทำธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 1,090,000 บาท เพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าลงทุนโครงการสีลมเซ็นเตอร์ สำหรับประกอบธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนสีลมและถนนพระราม 4
-
2565
พฤศจิกายน 2564
บริษัทฯ ได้อนุมัติให้ บริษัท โกลเด้น แลนด์ (เมย์แฟร์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ เข้าซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่เหลืออยู่ในโครงการเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กแซกคิวทีฟ อพาร์ทเมนต์ คิดเป็นมูลค่า 1,743 ล้านบาท
ธันวาคม 2564
บริษัทฯ ได้อนุมัติให้ บริษัท สาธร พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 25,000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญทั้งหมดใน บริษัท ทีซีซีซีแอล เสนา จำกัด คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 591,375,000 บาท เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ภายใต้ชื่อโครงการเดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์ (The Royal Residence)
เมษายน 2565
บริษัทฯ ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ Fraser Property Thailand (Indonesia) Pte. Ltd. ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย
พฤษภาคม 2565
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม ประกอบด้วย บริษัท NM1 Pte. Ltd. เพื่อรองรับการลงทุนในประเทศเวียดนาม และบริษัท NM1 Vietnam Company Limited เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม
มิถุนายน 2565
บริษัทฯ ได้อนุมัติให้บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมในบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย จากบริษัท PT SLP Surya TICON Internusa (“SLP”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม และบริษัท PT Surya Internusa Timur (“SIT”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า ทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน SLP เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 75 และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน SIT เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33.3 เป็นร้อยละ 100 ส่งผลให้ SLP และ SIT มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
-
2566
พฤษภาคม 2566
บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“FPHT”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เพื่อจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท ถืออยู่ใน บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (“FP TECH”) ในสัดส่วนร้อยละ 100 ให้แก่ FPHT คิดเป็นมูลค่ารายการทั้งสิ้น 460,000,000 บาท ทั้งนี้ FP TECH เป็นบริษัทย่อยฯ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ร่วมกับกลุ่มเอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ ผ่านการถือหุ้นในบริษัท เอสทีที จีดีซี (ประเทศไทย) จำกัด (“STT GDC”) ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทร่วม (กิจการร่วมค้า) ของบริษัทฯ ดังนั้น จึงส่งผลให้ FP TECH และ STT GDC สิ้นสภาพจากการเป็นบริษัทย่อยและบริษัทร่วมของบริษัทฯ ตามลำดับ
-
2567
ธันวาคม 2566
บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท โกลด์เวนเจอร์ วัน จำกัด เพื่อการลงทุนของบริษัทฯ ในธุรกิจประเภทต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.48 โดยถือผ่านบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัท จัสโค (ประเทศไทย) จำกัด (“JCT”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในการประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการพื้นที่การทำงานในลักษณะCo-working Space ในสัดส่วนร้อยละ 51 ให้แก่บริษัท จัสโค โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (“JCHT”) ซึ่งเป็นบุคคลเกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่ารายการ 316,000,000 บาท โดยการจำหน่ายหุ้น JCT ถือเป็นการปรับโครงสร้างการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อมุ่งเน้นในกลุ่มธุรกิจหลักซึ่งได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์